โรงเรียนบ้านท่าปากแหว่ง

หมู่ที่ 11 บ้านบ้านท่าปากแหว่ง ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา 82140

คุณแม่ อธิบายและศึกษาว่าอาการอะไรบ้างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกังวล

คุณแม่

คุณแม่ อะไรทำให้เกิดอาการปวดท้อง ในระหว่างตั้งครรภ์ อาจเป็นอันตราย หรือส่งผลต่อลูกด้วยสาเหตุใด แล้ววิธีแก้อาการท้องแข็งหรือแก้ยังไงมาดูกันค่ะ คุณแม่หลายคนประสบปัญหาท้องแข็งระหว่างตั้งครรภ์ นี่เป็นอาการที่หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่พบ แต่ก็ทำให้เกิดความกังวลไม่น้อย อะไรทำให้เกิดอาการนี้ และเป็นอันตรายต่อเด็กหรือไม่

วันนี้กระปุกดอทคอมขอไขข้อข้องใจ และหาทางออก อาการปวดท้องระหว่างตั้งครรภ์คืออะไร เพื่อคลายความกังวลใจของคุณแม่อาการปวดท้องมักเกิดขึ้น เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ หรือเมื่ออายุได้ 7 ถึง 9 เดือน และอาการนี้เกิดจากการรัดตัวของมดลูก พิจารณาว่าปกติหากอาการไม่หายไป สาเหตุของอาการปวดท้อง อาการท้องแข็งเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการปวดท้อง

อาการท้องแข็งเนื่องจากทารกก้มศีรษะ ซึ่งเป็นอาการท้องแข็งที่พบได้บ่อยที่สุด คุณแม่ จะรู้สึกว่าท้องบางส่วนแข็ง บางส่วนนิ่มและท้องไม่แข็งทั้งหมด เกิดจากการที่ลูกในครรภ์บิดตัว หรือแอ่นตัวไปชนกับผนังมดลูก ท้องแข็งซึ่งทำให้มดลูกบีบตัวจนอวัยวะของทารก เช่น ข้อศอก ไหล่ เข่า ศีรษะหรือก้นนูนออกมาในช่องท้องไม่เป็นอันตราย

ท้องแข็งจากการกินมากเกินไป ฉันแน่ใจว่าหลายคนประสบปัญหานี้ในระหว่างตั้งครรภ์ คือถ้ากินอะไรเข้าไปหน่อย ก็จะแน่นท้องจนแข็ง นั่นเป็นเพราะความจุของช่องท้องมีจำกัด เมื่อมดลูกโตจนเบียดอวัยวะภายในทั้งหมด ยิ่งตั้งครรภ์ยิ่งมดลูกหย่อน ยิ่งบีบท้องหนักเข้าไปอีก กินอะไรแล้วรู้สึกแน่นๆ ท้องแข็ง ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบีบตัวแต่อย่างใด

คุณแม่

วิธีแก้ไขคือให้คุณแม่เปลี่ยนมาทานอาหารอ่อนย่อยง่าย ทานน้อยลง อาการที่เกิดจากสาเหตุนี้ คือมดลูกในท้องจะแข็งไปหมด ไม่ยากบางช่วง เช่น เวลาก้มตัว อาการคล้ายปวดประจำเดือน การบีบรัดตัวของมดลูกขณะท้องแข็ง มักพบก่อนเวลาอันควรในระหว่างตั้งครรภ์กล่าวคือในสัปดาห์ที่ 32 ของการตั้งครรภ์เป็นช่วงที่ทารกในครรภ์เคลื่อนไหวมากที่สุด การเคลื่อนไหวมากของทารก อาจช่วยกระตุ้นมดลูกให้บีบตัวบ่อยขึ้น ให้อารมณ์เหมือนการเจ็บท้องคลอด

แต่หากคุณแม่แข็งแรง และอดทนความเจ็บปวดจะค่อยๆ ทุเลาลงภายใน 2 สัปดาห์ ก็สามารถคลอดได้ตามปกติหากคุณมีอาการปวดท้องและท้องแข็ง ให้บีบเบาๆ แล้วผ่อนคลาย ไม่มีปัญหาแต่ถ้าท้องแข็งครั้งละประมาณ 10 นาที ให้ทำประมาณ 4 ถึง 5 ครั้งติดต่อกันจนรู้สึกแน่น หายใจลำบาก และอาการไม่หายไปรวมถึงมูก หรือมูกเลือดในช่องคลอด ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นมดลูก อาจบีบตัวจนปากมดลูกเปิด เป็นเหตุให้ฉันต้องเกิดก่อนกำหนด

คุณดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อท้องแข็งดูแลตัวเองกันทั้งๆ ที่เฝ้าระวัง และรีบไปหาหมอ รองรับอายุครรภ์ 9 เดือน ซึ่งจะทำให้ทารกแข็งแรงที่สุด แค่นั้นแหละ พักผ่อนให้มากที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกกำลังหนักๆ เช่น เดินบ่อยๆ ขึ้นลงบันได และยกของหนัก เพราะยิ่งเคลื่อนไหวมาก ท้องจะแข็งขึ้น ถ้าทำได้ก็ควรทำเพราะการพักผ่อนคือการรักษาที่ดีที่สุด สำหรับปัญหากระเพาะอาหารขั้นรุนแรง

อย่าบิดหรือหมุนอย่างเฉื่อยชา เพราะการบิดขี้เกียจจะช่วยลดปริมาตรท้อง ความดันในมดลูกที่เพิ่มขึ้น ทำให้กระเพาะอาหารแข็งตัวได้ง่าย ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ยิ่งคุณกลั้นไว้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น เนื่องจากมดลูกที่ใหญ่ขึ้นจะไปกดทับกระเพาะปัสสาวะทำให้มีขนาดเล็กลง เมื่อคุณอั้นปัสสาวะจะทำให้กระเพาะปัสสาวะของคุณบวมมากยิ่งขึ้น การบีบตัวพร้อมกับมดลูกทำให้ความดันในมดลูกสูงขึ้น อาการท้องแข็งมักจะทุเลาลงหลังจากปัสสาวะ

ลุกช้าๆ หลับช้าๆ เวลาเรานั่งหรือนอนแล้วลุกต้องเกร็งหน้าท้อง สิ่งนี้จะเพิ่มแรงกดดันต่อช่องท้อง ทำให้มดลูกบีบรัดตัว จึงควรค่อยๆ งอและใช้แขนช่วยพยุงขึ้น ส่วนการนอนต้องนอนตะแคงช้าๆ เพื่อป้องกันท้องแข็ง อย่ากินมากเกินไป การกินมากเกินไปหรือไม่เคี้ยวอาหารให้ละเอียด อาจทำให้มีแก๊สในกระเพาะมากกว่าปกติ หรืออาหารไม่ย่อย โดยปกติแล้ว ระบบย่อยอาหารของกระเพาะอาหารไม่ดีพอ มันอาจทำให้กระเพาะอาหารแข็งตัวเมื่อมีแก๊สอยู่

อย่ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงไตรมาสสุดท้าย เพราะการมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้ปากมดลูกระคายเคืองได้ ทำให้มดลูกบีบรัดตัว ซึ่งไม่ดีต่อการตั้งครรภ์ อย่าถูท้องบ่อยเกินไป มดลูกเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อหลายส่วน และไวต่อการกระตุ้น คุณแม่หลายคนมักมีอาการปวดท้อง ยิ่งท้องแข็งก็ยิ่งเกา เลยทำให้ท้องแข็งไปด้วย ดังนั้นอดทนไว้ นอนนิ่งๆ อย่าถูแล้วท้องจะหายเอง

บทความที่น่าสนใจ : อาหาร อธิบายและศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารของประเทศเกาหลี

บทความล่าสุด